ณวัฒน์ ผู้ประกาศข่าวและนักวิจารณ์ชื่อดัง ได้ออกมาวิจารณ์อย่างหนักถึงกรณีของ ฟิล์ม รัฐภูมิ ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีแชร์ลูกโซ่ “The ไอคอน” โดยฟิล์มถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกรับเงินจำนวน 20 ล้านบาทจาก หนุ่มกัญชัย เพื่อแลกกับการได้ออกรายการโหนกระแส ซึ่งเป็นข่าวที่ทำให้ชื่อเสียงของฟิล์มตกต่ำอย่างรุนแรง
ในขณะที่ หนุ่มกัญชัย ได้ออกมายืนยันว่าเขาได้แจ้งความกับตำรวจเกี่ยวกับการเรียกรับเงินดังกล่าว พร้อมทั้งมีคลิปเสียงที่สามารถยืนยันข้อกล่าวหาดังกล่าวได้ ฟิล์มได้ออกมาแสดงความขอโทษต่อ หนุ่มกัญชัย ที่เอาชื่อของเขาไปอ้างในการเรียกรับเงินจำนวนดังกล่าว โดยฟิล์มยืนยันว่าเขาไม่ได้มีเจตนาทำผิด แต่ก็ยอมรับว่าการกระทำของเขาสร้างความเสียหายและความเข้าใจผิด
คดี “The ไอคอน” ถือเป็นหนึ่งในคดีที่สร้างความสับสนและความเสียหายอย่างมากให้กับผู้คนที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้เสียหายจำนวนหลายหมื่นราย และมูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำลายความเชื่อมั่นของผู้คนในวงการธุรกิจและการเงินยิ่งทำให้คดีนี้กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชน
ณวัฒน์ ได้เตือนให้ระวังการติดต่อและพูดคุยกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดี “The ไอคอน” โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับการกระทำที่น่าสงสัย เพราะเขามองว่า “แก๊งดีไอคอน” นั้นน่ากลัวและอาจสร้างปัญหาตามมามากมายในอนาคต เขาแนะนำให้ผู้คนห่างไกลจากการเชื่อมโยงกับกลุ่มดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงในรูปแบบต่าง ๆ
ล่าสุด ณวัฒน์ ได้ประกาศว่าจะติดตามความเคลื่อนไหวและการดำเนินการของ หนุ่มกัญชัย และฟิล์มอย่างใกล้ชิด โดยระบุว่าเขาจะเฝ้ารอดูว่าคดีนี้จะมีการดำเนินการอย่างไรในอนาคต และผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบความจริงเกี่ยวกับคดีนี้
การแสดงความเห็นจาก ณวัฒน์ ถือเป็นการสะท้อนถึงความกังวลในวงการสื่อและการเงินที่มีการหลอกลวงและการกระทำผิดในลักษณะนี้ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสังคมไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผู้คนต้องการความเชื่อมั่นในธุรกิจและการลงทุน
ฟิล์ม ต้องเผชิญกับผลกระทบจากคดีนี้ที่อาจทำให้เครดิตและความน่าเชื่อถือของเขาถูกลดลงอย่างรวดเร็วและยากที่จะกู้กลับคืนมา เนื่องจากมีการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับการกระทำของเขาอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นเหตุให้ทั้งเขาและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเผชิญกับการวิจารณ์และการตรวจสอบจากสาธารณชนอย่างใกล้ชิด