น้องแมงปอและน้องผู้กันเลิกกันหลังแต่งงานไม่นาน สาเหตุปัญหาการเงิน น้องแมงปอและน้องผู้กัน คู่รักวัย 21 ปี ที่เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน ต้องเลิกรากันไปเนื่องจากปัญหาการเงินของครอบครัวฝ่ายชาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และความเครียดภายในครอบครัว น้องผู้กันมีปัญหาในการจัดการเรื่องค่าสินสอดที่ตกลงไว้กับทางฝ่ายหญิง เนื่องจากพ่อของเขาไม่สามารถจ่ายได้ตามที่ตกลง ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างทั้งสองครอบครัว คุณแม่ของแมงปอได้เปิดเผยว่าตนต้องขอยืมเงินเพื่อให้ลูกสาวสามารถเรียนและใช้ชีวิตต่อไป แม้ว่าเธอจะมีหนี้สินอยู่แล้วก็ตาม น้องผู้กันได้ออกมาขอโทษพ่อแม่ของแมงปอ พร้อมยอมรับว่าตนเองเป็นสาเหตุทำให้ชีวิตของแมงปอแย่ลงและรู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ท่ามกลางความยากลำบากนี้ ค่ายเพลงโตเกียวมิวสิคได้แสดงความสนใจสนับสนุนน้องผู้กันในการทำเพลง หลังจากเห็นความสามารถในการร้องเพลงและเล่นกีตาร์ของเขา ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสใหม่ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเส้นทางของวงการเพลง…
ช่องดัง “PASULOL” ล้อเลียน “กรรชัย-กัน จอมพลัง” สร้างความฮือฮาในวงการบันเทิง ช่อง PASULOL ได้สร้างความฮือฮาในวงการบันเทิงไทย ด้วยการล้อเลียน “กรรชัย-กัน จอมพลัง” ซึ่งเป็นการนำเสนอในรูปแบบที่สนุกสนานและน่าสนใจ ทำให้เกิดกระแสพูดถึงในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนรายการโหนกระแสที่มีความรักและติดตามเนื้อหาของทั้งสองคนเป็นจำนวนมาก หลังจากการล้อเลียนนี้ “กรรชัย-กัน จอมพลัง” ถูกเรียกตัวออกจากรายการโหนกระแส สถานการณ์นี้ทำให้เกิดความตื่นเต้นและการพูดคุยกันมากมายในสื่อสังคมออนไลน์…
“แพรรี่” ไลฟ์สดเดือด ตอบโต้ “หมอดู” ที่พาดพิงพระพุทธเจ้า แพรรี่ นักแสดงและเน็ตไอดอลชื่อดัง ได้ออกมาไลฟ์สดด้วยอารมณ์เดือดเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อคำพูดของหมอดูคนหนึ่งที่พาดพิงถึงพระพุทธเจ้าในระหว่างการทำนาย โดยแพรรี่ได้ชี้แจงว่าไม่มีใครควรใช้ชื่อเสียงหรือความเชื่อทางศาสนามาทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์หรือเสียดสีในลักษณะดังกล่าว ในไลฟ์สดนี้ แพรรี่ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายจิตใจตนหรือผู้อื่นด้วยการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการเคารพในความเชื่อและศาสนา เพื่อสร้างสังคมที่มีความสงบสุขมากยิ่งขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความตึงเครียดในวงการบันเทิงไทย โดยมีการวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงการพลาดโหนกระแสของหมอดูที่เกี่ยวข้อง และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวงการ ทั้งยังเป็นการเรียกร้องให้มีการทบทวนถึงการใช้คำพูดในที่สาธารณะเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมในอนาคต.