“แบงค์ ศรราม” ได้ออกมาเปิดเผยว่าตนไม่ปล่อยให้ “เจ้าภาพกฐิน” ที่มีปัญหาทำการเบี้ยวเงินและทิ้งภาระไว้ที่วัด โดยเขาได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว เนื่องจากรู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นธรรมและไม่ควรเกิดขึ้นในงานกฐิน ซึ่งเป็นพิธีสำคัญทางศาสนา แบงค์ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเจ้าภาพได้ทำการตกลงที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในงานกฐิน แต่กลับไม่ดำเนินการตามข้อตกลงและทิ้งภาระให้กับวัดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องจัดการเอง ทำให้เกิดความไม่สะดวกและเสียเวลาเป็นอย่างมาก การเปิดเผยของแบงค์ทำให้เกิดความสนใจในสังคมออนไลน์ โดยมีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นสนับสนุนและเชื่อว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและรับผิดชอบในสังคม รวมถึงการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีกรรมทางศาสนา แบงค์ยังยืนยันว่าเขาจะดำเนินการอย่างถึงที่สุดเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในเรื่องนี้ และหวังว่ากรณีนี้จะเป็นตัวอย่างให้กับเจ้าภาพคนอื่น ๆ ที่ต้องการจัดงานในลักษณะเดียวกัน…
“จันจิ” ได้ออกมายกมือไหว้และขอให้ชาวเน็ตเข้าใจหลังจากที่เธอถูกแซะแรงเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับ “มาริโอ้” โดยเธอได้แชร์ความรู้สึกผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าการหวงกันนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ควรทำในใจและไม่ควรให้มันบานปลายไปจนเกิดความขัดแย้ง จันจิยังกล่าวถึงความรักที่มีต่อมาริโอ้ และย้ำว่าความรู้สึกหวงนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของคนรัก แต่เธอขอให้ทุกคนหยุดแซะและเข้าใจว่าทั้งคู่มีความสุขดีในแบบของพวกเขา เธอแสดงออกถึงความเป็นห่วงในเรื่องภาพลักษณ์และความเป็นส่วนตัวของทั้งสองคน โดยขอให้ผู้คนเคารพในความสัมพันธ์ของพวกเขา หลังจากที่เธอโพสต์ข้อความนี้ ชาวเน็ตหลายคนเริ่มเข้ามาสนับสนุนและแสดงความเห็นที่เข้าใจในความรู้สึกของจันจิ หลายคนบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะรู้สึกหวง และชื่นชมที่จันจิสามารถเปิดเผยความรู้สึกได้อย่างตรงไปตรงมา ในขณะเดียวกันก็มีผู้เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจเธอในการรักษาความรักที่มีต่อมาริโอ้ให้ดีต่อไป ต่อจากนั้น “จันจิ” ยังได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเธอไม่อยากให้ความคิดเห็นจากชาวเน็ตหรือคำพูดจากคนอื่น ๆ…
“แม่มอร์ฟีน” ออกมาดึงสติ “มิสแกรนด์พม่า” โดยให้คำแนะนำว่า หากต้องการที่จะชนะอย่างแท้จริง ควรทุ่มเทด้วยความสามารถของตนเอง และไม่ควรสร้างปัญหาหรือขัดแย้งกับคนอื่น โดยกล่าวเตือนอย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าอยากชนะก็ไปแข่งคนเดียว” นอกจากนี้ แม่มอร์ฟีนยังเสริมว่าในวงการประกวดความงามนั้นมีคนที่กล้าลงทุนมหาศาล บางคนถึงขั้นใช้เงินหลักล้านเพื่อสนับสนุนการประกวดและสร้างความสำเร็จ ดังนั้น การแข่งขันควรเป็นไปอย่างมีสติและยอมรับว่าทุกคนต่างมีเส้นทางและวิธีการของตนเอง ซึ่งการแสดงท่าทีในเชิงลบหรือความขัดแย้งอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และโอกาสในอนาคต การแสดงออกของแม่มอร์ฟีนได้รับเสียงสนับสนุนจากแฟนนางงามจำนวนมาก ที่มองว่าการย้ำถึงความสำคัญของสติและการเคารพในการแข่งขันเป็นสิ่งที่ควรยึดถือ หล หลังจากที่แม่มอร์ฟีนออกมาเตือนสติ “มิสแกรนด์พม่า”…