ออม สุชาร์ได้เปิดใจเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องการเลิกรากับแฟนหนุ่มที่มีออกมาในช่วงที่ผ่านมา โดยเธอได้อธิบายผ่านโซเชียลมีเดียว่า การลบภาพคู่ของเธอกับแฟนออกจากโปรไฟล์นั้นเป็นเพียงการจัดระเบียบโปรไฟล์ส่วนตัว และไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเลิกราอย่างที่สังคมเข้าใจ ออมยอมรับว่า ความสัมพันธ์รักนั้นย่อมมีทั้งวันที่ดีและวันที่ไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคู่รักต้องเจอ แม้จะมีช่วงเวลาที่รู้สึกไม่แน่ใจและไม่มั่นคงในบางครั้ง แต่เธอก็เชื่อว่า การสื่อสารและความไว้วางใจซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาความสัมพันธ์ให้มั่นคง เธอยังกล่าวถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตที่ยังคงมีอยู่บ้าง แต่ก็พยายามมุ่งมั่นในการใช้ชีวิตประจำวันที่ดีและมีความสุขให้มากที่สุด ออมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้ความสำคัญกับทุกช่วงเวลาของชีวิตและการอยู่กับตัวเองอย่างสมดุล ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลือหรือความคิดเห็นจากสังคมภายนอกเข้ามา เธอก็ยังคงพยายามมองโลกในแง่ดีและยืนหยัดในความเชื่อของตัวเองเกี่ยวกับความรักและการใช้ชีวิต ในขณะเดียวกันก็ยังเปิดใจสำหรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ล่าสุดปรมาจารย์ฮวงจุ้ยชื่อดังในประเทศไทยถูกสงสัยว่าฉ้อโกงผู้สูงอายุซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ที่ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยสนับสนุนให้ผู้สูงอายุประกอบพิธีกรรมราคาแพงและจบลงด้วยการถูกเรียกเก็บเงินจำนวน 660,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้สูงอายุคนหนึ่งขอให้ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยคนนี้ปรับปรุงฮวงจุ้ยในบ้านของเขา เบื้องต้นผู้สูงอายุจ่ายเงิน 55,000 บาท เพื่อขอคำปรึกษาจากฮวงจุ้ยเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับบ้าน แต่ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจึงสั่งให้ซื้อของแพงขึ้น ส่งผลให้มีต้นทุนรวมกว่า 600,000 บาท ในที่สุดผู้สูงอายุก็ตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ เนื่องจากพิธีกรรมและคำแนะนำของปรมาจารย์ฮวงจุ้ยดูเหมือนจะไม่ได้ผล เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้รับอะไรเลยจากเงินจำนวนมหาศาลที่เขาจ่ายไป และถือว่าการกระทำของปรมาจารย์ฮวงจุ้ยเป็นการฉ้อโกง ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการปฏิบัติตามศรัทธาอาจทำให้ปัญหาแย่ลงได้ ระบบความเชื่อ…

เชน ธวัชสรรค์ได้ออกมาแสดงการสนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อกันต์ กันตถาวร เพื่อนสนิทของเขาผ่านทางโซเชียลมีเดีย หลังจากที่กันต์กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ทำให้ชื่อเสียงของเขาตกต่ำ โดยเชนได้พูดถึงการวิจารณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์และตั้งคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่การแสดงการสนับสนุนเพื่อนสนิทกลับกลายเป็นประเด็นที่ได้รับการโจมตีจากสังคม เชนกล่าวว่าเขารู้สึก “โนย” หรือไม่พอใจต่อการวิจารณ์เหล่านี้ และเชื่อว่าความรักและการสนับสนุนเพื่อนในช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรจะทำ เชนไม่ได้มุ่งหวังที่จะเข้าไปแทรกแซงในเรื่องทางกฎหมายหรือสนับสนุนให้คนอื่นมองว่าเพื่อนของเขาไม่มีความผิด แต่เขาเน้นย้ำว่าการสนับสนุนเพื่อนในฐานะเพื่อนที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการตัดสินทางกฎหมาย แต่เป็นการให้กำลังใจทางอารมณ์ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพื่อให้กันต์มีพลังในการต่อสู้กับสถานการณ์นี้อย่างมั่นใจ เชนยังได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการโจมตีที่ไปถึงครอบครัวและลูกของกันต์ โดยกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมและไม่ควรเกิดขึ้น การโจมตีบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ซึ่งเชนต้องการให้สังคมหันมามองว่าไม่ว่าใครก็ตาม การสนับสนุนเพื่อนที่กำลังเผชิญกับปัญหานั้นเป็นสิ่งที่ดีและมีค่ามากกว่าการตัดสินคนอื่นโดยไม่เข้าใจสถานการณ์จริงๆ ด้วยความเป็นเพื่อนที่มีความผูกพันกันมานาน…