“แม่มอร์ฟีน” ออกมาดึงสติ “มิสแกรนด์พม่า” โดยให้คำแนะนำว่า หากต้องการที่จะชนะอย่างแท้จริง ควรทุ่มเทด้วยความสามารถของตนเอง และไม่ควรสร้างปัญหาหรือขัดแย้งกับคนอื่น โดยกล่าวเตือนอย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าอยากชนะก็ไปแข่งคนเดียว” นอกจากนี้ แม่มอร์ฟีนยังเสริมว่าในวงการประกวดความงามนั้นมีคนที่กล้าลงทุนมหาศาล บางคนถึงขั้นใช้เงินหลักล้านเพื่อสนับสนุนการประกวดและสร้างความสำเร็จ ดังนั้น การแข่งขันควรเป็นไปอย่างมีสติและยอมรับว่าทุกคนต่างมีเส้นทางและวิธีการของตนเอง ซึ่งการแสดงท่าทีในเชิงลบหรือความขัดแย้งอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และโอกาสในอนาคต การแสดงออกของแม่มอร์ฟีนได้รับเสียงสนับสนุนจากแฟนนางงามจำนวนมาก ที่มองว่าการย้ำถึงความสำคัญของสติและการเคารพในการแข่งขันเป็นสิ่งที่ควรยึดถือ หล หลังจากที่แม่มอร์ฟีนออกมาเตือนสติ “มิสแกรนด์พม่า”…

“ก้อย” แสดงความห่วงใยอยู่ห่างๆ หลังจากที่ “นิกกี้” ตัดสินใจเลิกรากับ “เปียโน” โดยเธอได้ส่งข้อความเตือนสติถึงนิกกี้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าไม่มีใครโอเคกับเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงหรือความขัดแย้งที่บานปลาย ก้อยแสดงออกถึงความเป็นห่วงแม้ว่าตนจะอยู่ห่างออกมา โดยแนะนำนิกกี้ให้ใช้สติและทบทวนถึงการกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงควรคิดถึงผลกระทบต่อคนรอบข้างและสถานการณ์ที่จะตามมา คำแนะนำของก้อยสะท้อนถึงความหวังดีและความตั้งใจที่จะเห็นนิกกี้เดินหน้าต่อไปอย่างมีสติและไม่ปล่อยให้ความขัดแย้งนำไปสู่การกระทำที่ทำร้ายทั้งตนเองและผู้อื่น นอกจากการส่งข้อความเตือนสติแล้ว “ก้อย” ยังแสดงความหวังดีต่อ “นิกกี้” และ “เปียโน” โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวและการยุติความขัดแย้งด้วยสันติวิธี…

“ท่านจันทร์” ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ “อ.เบียร์” อย่างรุนแรงในประเด็นที่เชื่อมโยงไปถึง “แพรรี่” ซึ่งนำไปสู่การโต้ตอบกลับจากฝั่งของแพรรี่ โดยเธอได้ตอกกลับท่านจันทร์ว่าไม่ควรแสดงท่าทีดูหมิ่นและเหยียดเพศสภาพของผู้อื่น พร้อมย้ำว่า การแสดงออกเชิงอคติและการแสดงความอิจฉาริษยาไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสม การโต้เถียงนี้กลายเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว หลายคนได้ออกมาสนับสนุนแพรรี่ในการปกป้องสิทธิของตนและแสดงความคิดเห็นว่าท่านจันทร์ควรเคารพในความแตกต่างทางเพศสภาพ โดยเน้นถึงการมีความเข้าใจและเปิดใจยอมรับ หลังจากที่แพรรี่ออกมาตอบโต้ ท่านจันทร์กลับยังคงใช้ถ้อยคำแรงในการพูดถึงเธอและ “อ.เบียร์” ซึ่งทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอีก ฝ่ายแพรรี่ได้ย้ำเตือนว่าการดูหมิ่นเพศสภาพเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและทำลายบรรยากาศของสังคมที่ควรให้ความเคารพต่อความหลากหลาย ด้านชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม หลายคนวิจารณ์ท่านจันทร์ว่าควรยุติการแสดงออกที่ขาดความเคารพต่อผู้อื่น โดยมองว่าความขัดแย้งนี้เป็นตัวอย่างที่ทำให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการยอมรับและไม่เหยียดเพศสภาพ…